ซูซานเอฟ ประสบการณ์ความตาย 
Home Page ประสบการณ์ใกล้ตาย – เรื่องเล่าล่าสุด เล่าประสบการณ์ใกล้ตายของคุณ



Experience description:

ซูซาน เอฟ

ประสบการณ์ความตาย

สิ่งที่ดิฉันจะเล่าให้ฟังนี้ เป็นประสบการณ์เกี่ยวกับความตายของดิฉันเอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ขณะนั้น ดิฉันอยู่ที่โรงพยาบาลที่ชิคาโก ฉันเจ็บป่วยด้วยก้อนเลือดอุดตันในปอดอันเกิดจากที่ฉันสูบบุหรี่และการรับประทานยาคุมกำเนิด ซึ่งเรายังไม่มีความรู้เรื่องนี้เหมือนในปัจจุบันเลย ฉันได้รับความเจ็บปวดมากๆ นายแพทย์ถูกตามมาด่วนที่ห้องฉุกเฉินทันที โดยนายแพทย์เข้าใจว่า ดิฉันเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ต่อมาจึงได้ส่งดิฉันกลับบ้าน เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ฉันเริ่มหายใจไม่ค่อยออก

เพื่อนของดิฉันจึงได้เร่งรีบขับรถยนต์พาฉันกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง ดิฉันแจ้งหน้าเคาเตอร์ของโรงพยาบาลให้รับฉันเข้าเป็นผู้ป่วยในทันที แต่เจ้าหน้าที่กลับปฏิเสท

ฉันเลยจำเป็นต้องนั่งคอตกบนเก้าอี้ในห้องฉุกเฉิน โดยที่ข้างๆฉันมีคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ฉันจะตายให้ได้ด้วยความเจ็บปวดดังกล่าว พอฉันตื่นขึ้นมาก็พบว่า ฉันกำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล

ก่อนที่ฉันจะฟื้นตื่นขึ้นมา ฉันจำได้ว่า ฉันกำลังอยู่ในอุโมงค์ที่กว้างใหญ่มากอุโมงค์หนึ่ง ภายในอุโมงค์ก็สว่างไสวไปด้วยแสงสว่างจ้า ดิฉันได้ยินเสียงของคุณแม่เรียกชื่อดิฉัน ฉันก็ทำได้เพียงแค่กระซิบกับคุณแม่เท่านั้น พลันก็ปรากฏว่า มีเสียงที่อ่อนละมุนพูดว่า “ไม่ต้องพูดอะไรเลย เก็บพลังงานของเจ้าเอาไว้” ฉันก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความกลัว แล้วฉันก็เริ่มเรียกหาคุณแม่ของฉัน ฉันจำได้ว่า มันเป็นการยากมากที่ฉันจะสามารถเปล่งเสียงเป็นคำพูดออกมา

คราวนี้ เสียงดังกล่าวก็เริ่มพูดดังขึ้นมาก และพูดในประโยคเดิม “ไม่ต้องพูดอะไรเลย เก็บพลังงานของเจ้าเอาไว้” ฉันเริ่มสังเกตที่ปลายทางของอุโมงค์ มีภาพเล็กๆเกิดขึ้น อีกครั้งหนึ่งที่ฉันพยายามเปล่งเสียงเรียกคุณแม่ของฉัน แต่ฉันก็ได้ยินเสียงดังกล่าวอีกเป็นเวลานานมาก ขณะที่ฉันกำลังพยายามพูด ภาพที่ปลายอุโมงค์ก็ค่อยๆขยายใหญ่มากขึ้น

และแล้วดิฉันก็ฟื้นตื่นขึ้นมา ก็พบว่า คุณแม่ยืนอยู่ตรงปลายเตียงนอน ทุกวันนี้ฉันก็ยังไม่หายสงสัยว่า เสียงที่เปล่งออกมาตอนนั้นเป็นเสียงคุณแม่ของดิฉันหรือไม่ แต่นั่นเป็นเสียงผู้ชาย แต่เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ในห้องไม่มีคุณหมอที่เป็นผู้ชายเลย ฉันยังคงเก็บความสงสัยนี้อีกต่อมาเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากฉันเกรงว่า หากเล่าไปแล้วพวกเขาจะคิดว่า ดิฉันเป็นบ้าแน่นอน ท่านผู้อ่านจะช่วยอธิบายให้ดิฉันเข้าใจได้อย่างไร